ตาเหล่ซ่อนเร้นแนวตั้งผสมกับสายตายาวตามวัย
Case report
ตอน vertical phoria และ presbyopia
บทนำ
ปัญหาด้านการมองเห็นนั้นเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากปัญหาสายตา สั้น ยาว เอียง แล้ว ยังมีปัญหาที่รบกวนระบบการมองเห็นที่สำคัญมาก ๆ นั่นคือปัญหากล้ามเนื้อตา(vergence) และปัญหาที่เกี่ยวกับระบบการเพ่ง(Accommodation) ซึ่งปัญหานี้เกี่ยวพันกับระบบการมองเห็นโดยตรงและต้องบอกว่าสำคัญมาก หากผู้ตรวจมีความรู้ความเข้าใจก็จะสามารถแก้ไขปัญหาการมองเห็นนี้ได้อย่างบูรณาการ
วันนี้ก็จะพูดถึงอีกหนึ่งปัญหาที่รบกวนการมองเห็นโดยคนไข้จะเห็นภาพซ้อนตลอดเวลา ซึ่งถ้าวิเคราะห์เพียงผิวเผินก็อาจจะคิดว่าคนไข้มีปัญหาสายตาเอียง แต่จริง ๆแล้วมันคือปัญหากล้ามเนื้อตา ซึ่งหากมีปัญหากล้ามเนื้อตานั้นหากแก้ไขเพียงแค่ระบบสายตาก็ไม่สามารถทำให้ระบบการมองเห็นนั้นกลับมาเป็นปรกติได้ เราจึงต้องแก้ไขระบบการมองเห็นอย่างบูรณาการ ส่วนแนวทางในการแก้ไขนั้นก็จะแล้วแต่ชนิดของความผิดปรกติของกล้ามเนื้อตา และปริมาณ phoria ที่ตรวจพบ วันนี้จะขอพูดถึงความผิดปรกติของกล้ามเนื้อตาชนิดตาเหล่สูงต่ำแบบซ่อนเร้น(Vertical phoria) และแนวทางการแก้ไขด้วยเลนส์ชนิดที่เรียกว่าเลนส์ prism เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
เลนส์ prism นั้น ไม่ใช่ยารักษาโรค แต่เลนส์ prism นั้น เป็นเลนส์ที่ช่วยในการเบี่ยงแนวแสงทำให้แนวแสงในตาทั้งสองข้างบรรจบกันพอดี ทำให้ตาทั้งสองข้างทำงานร่วมกันให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น binocular vision แต่ผู้นำมาใช้ต้องมีความรู้ มีความเชี่ยวชาญ มีทักษะการตรวจที่ดี ผู้ใช้ต้องมีความผิดปรกติทางด้านกล้ามเนื้อตาอย่างเด่นชัด ผู้นำมาใช้ต้องตรวจอย่างละเอียดและต้องยืนยันได้ว่าเลนส์ prism ที่จ่ายไปนั้นช่วยทำให้ระบบการมองเห็นกลับมาเป็นปรกติ และหลังจากจ่ายเลนส์ prism ไปนั้นต้องติดตามผลงานเป็นระยะ ๆ
เข้าเรื่อง
เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ได้มีลูกค้าเพศชายอายุ 38 ปี เข้ามาใช้บริการ จากการซักประวัติแล้วพบว่าลูกค้ามีปัญหาการมองเห็นภาพซ้อน ไปตัดแว่นตามาหลายที่ก็ไม่หายสวมใส่ก็ไม่ได้เลย เวลามองไกลหรืออ่านหนังสือต้องทำคอเอียงตลอดเวลา เป็นมานาน 2-3 ปี รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ไปหาหมอตาคุณหมอบอกไม่มีปัญหาอะไร บอกเพียงว่าเป็นสายตาเอียงให้ไปตัดแว่นสายตาใส่ ตัวลูกค้าเองก็เริ่มถอดใจว่าคงจะหมดหนทางในการรักษา จนวันหนึ่งลูกค้าได้พบบทความที่ผมเขียนผ่านสื่อ social media ของ facebook เรื่องกล้ามเนื้อตาและตาเหล่ซ่อนเร้นลูกค้าจึงเดินทางเข้ามาปรึกษาด้วยความหวังที่จะแก้ปัญหาที่เป็นอยู่
เริ่มทำการตรวจหลังจากการซักประวัติ
เมื่อทำการตรวจด้วยวิธีเฉพาะทางคลินิกแล้วพบว่าลูกค้าเป็นตาเหล่แบบซ่อนเร้นในแนวตั้ง vertical phoria ผลการตรวจเป็นดังนี้
สายตาที่วัดได้
RE 0.00 -2.00 x 170
LE 0.00 -2.00 x180
Vertical Phoria
Right hyperphoria 3 prism BD @ Distance
Right hyperphoria 3 prism BD @ Near
ผลการตรวจพบว่า ลูกค้ามีปัญหาสายตาเอียงปริมาณมาก และภาพซ้อนที่มองเห็นเวลามองพร้อมกันด้วยตาทั้งสองข้างนั้นเนื่องมาจากตาเหล่ซ่อนเร้นแนวตั้ง(Vertical phoria) ทำให้การมองเห็นเป็นภาพซ้อนตลอดเวลา จะเห็นได้ว่า phoria ที่ตรวจพบแม้มีปริมาณไม่มากนักแต่รบกวนระบบการมองเห็น เพราะ vertical phoria นั้นจะส่งผลกระทบเยอะกว่าตาเหล่ซ่อนเร้นแนวนอน (horizontal phoria) แม้จะตรวจพบเพียงปริมาณที่น้อย ยิ่งถ้ากำลังในการชดเชย(fusional reserve) มีปริมาณน้อยด้วยแล้ว ก็จะส่งผลให้เห็นภาพซ้อน ต้องทุกข์ทรมานกับการมองเห็นภาพซ้อน ต้องทำคอเอียงอยู่ตลอดเวลา
Tip การแยกปัญหาการมองเห็นภาพซ้อนนั้นว่ามาจากสายตาเอียงหรือปัญหาจากการมองเห็น 2 ตา (Binocular vision) ให้ปิดตาทีละข้าง และเปิดตา 2 ข้าง
แนวทางในการแก้ไข
ลูกค้ามีทั้งปัญหาสายตาเอียงและปัญหากล้ามเนื้อตา แต่ยังไม่มีปัญหาสายตายาวตามวัย ทางร้านจึงแก้ไขด้วยเลนส์ชั้นเดียว(Single vision) และใส่ปริซึมเข้าไปในเลนส์ข้างละ 0.75 ปริซึม ดังนี้
เลนส์ชั้นเดียวชนิดสั่งฝนพิเศษ Single vision สั่งขัดพิเศษ
RE = 0.00 -2.00x170 0.75 Prism BD
LE = 0.00 -2.00x180 0.75 Prism BU
ผ่านไป 2 สัปดาห์ ทางร้านได้โทรศัพย์สอบถามอาการเมื่อสวมใส่แว่นตา ลูกค้าบอกว่าแว่นตานั้นดีมาก เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ไม่มีภาพซ้อน ไม่ต้องทำคอเอียง ทำงานใช้ชีวิตมีความสุขมากยิ่งขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น
จบ case นี้ ผ่านไปอีก 2 ปี อายุเข้า 40 ปี ลูกค้าได้กลับเข้ามาที่ร้านพร้อมกับปัญหาสายตาเปลี่ยน เริ่มมองไกลไม่ชัด อ่านหนังสือก็ไม่ค่อยชัดเพ่งอ่านหนังสือนาน ๆ แล้วรู้สึกเมื่อยตา ทางร้านจึงทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ผลการตรวจเป็นดังนี้
ค่าสายตาที่วัดได้
RE -0.25 – 2.00 x 170
LE -0.25 – 2.00 x 180
ADD +0.75
ผลการตรวจ Phoria (วิธีเฉพาะทางคลินิก)
Vertical Phoria
Right hyperphoria 3 prism BD @ Distance
Right hyperphoria 3 prism BD @ Near
ค่า phoria ที่ได้มี 3 Prism ถือว่ามีปริมาณที่ไม่มากเกินไป แต่ถ้าหาก Fusional reserve มีปริมาณไม่มากพอจะส่งผลให้มองเห็นภาพซ้อนได้ แต่คนไข้รายนี้เห็นภาพซ้อนอยู่แล้วเนื่องจากปัญหาที่เป็นมาหลายปี ทางร้านจึงพิจารณาแก้ไขดังนี้
แก้ไขด้วยเลนส์โปรเกรสซีฟ เพื่อให้กลับมามองเห็นชัดทุกระยะ เลนส์ที่สั่งจ่ายเป็นดังนี้
Dynamic premium 1.50 (VG) bluecontrol sinsity dark gray
RE = -0.25 -2.00x170 0.75 Prism BD
LE = -0.25 -2.00x180 0.75 Prism BU
ADD +0.75
เมื่อลูกค้าได้รับแว่นเมื่อทำการสวมใส่ ลูกค้าบอกว่าภาพที่เห็นมีความชัดเจนอย่างมาก ไม่เห็นภาพซ้อน สบายตา อ่านหนังสือได้ชัดเจนขึ้น สบายตาขึ้น
สรุป
ปัญหาทางด้านระบบการมองเห็นนั้นเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน ซึ่งนอกจากปัญหาสายตา สั้น ยาว เอียง แล้ว ยังมีปัญหาที่ต้องพิจารณาและวิเคราะห์ร่วม นั่นคือ กล้ามเนื้อตา และระบบการเพ่ง หากการตรวจเป็นไปอย่างถึงพร้อมและบูรณาการผู้ที่ได้รับการบริการก็จะได้รับการแก้ไขอย่างดีเต็มประสิทธิภาพส่งผลทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามไปด้วย
ในปัจจุบันร้านแว่นตาที่อยู่ในเมืองไทย มีมากมายเป็นหลักหมื่นร้านค้าครอบคลุมทั้งประเทศ แต่ต้องยอมรับว่าผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับกล้ามเนื้อตา(phoria) และระบบการเพ่ง(Accommodation)นั้นมีปริมาณที่น้อยมาก ๆ บางท่านมีปัญหาด้านระบบการมองเห็นที่ไม่ใช่ปัญหาสายตาเพียงอย่างเดียวแต่ไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไรและจะเข้าถึงบุคลากรด้านนี้จากที่ไหน ทำให้การแก้ไขปัญหาด้านระบบการมองเห็นนั้นเป็นไปอย่างไม่บูรณาการเท่าที่ควร
หากท่านใดมีปัญหากล้ามเนื้อตามองเห็นภาพซ้อน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยรอบดวงตา มีอาการล้าทางสายตา ต้องทำคอเอียงหรืออาจจะมีปัญหาสายตาอย่างอื่นนอกจากที่กล่าวมาก็อินบล็อกเข้ามาสอบถามได้ครับ ผมเองยินดีให้คำปรึกษาครับ หรือหากต้องการความรวดเร็วก็โทรสอบถามได้ครับที่เบอร์ 081-3793209
นายอนิรุจน์ เรือนทองดี
นักตรวจปรับสายตา