CASE REPORT ตอน BASIC EXOPHORIA
บทนำ
บทความที่เขียนต่อไปนี้มีจุดประสงค์ที่อยากให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงปัญหาด้านระบบการมองเห็นที่ไม่ใช่แค่ปัญหาสายตา สั้น ยาว และเอียง อย่างที่หลาย ๆ ท่านเข้าใจเพียงเท่านั้น แต่อยากให้เข้าใจถึงระบบการมองเห็นลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญอยากให้ท่านผู้อ่านมองเห็นและเข้าใจถึงแนวทางในการแก้ไขระบบการมองเห็น ที่เป็นปัญหานอกเหนือไปจากเรื่องของปัญหาทางสายตา โดยปัญหาที่เกิดขึ้นอาจเป็นปัญหาจากกล้ามเนื้อตา ปัญหาตาเหล่ซ่อนเร้น เผื่อท่านใดที่มีปัญหาอยู่ได้เข้ามาอ่านบทความนี้แล้วจะได้มีความรู้ความเข้าใจปัญหาของตัวเองมากขึ้น และ มองเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาระบบการมองเห็นของตัวเอง
ลูกค้าท่านหนึ่งอาชีพเป็นเทรนเนอร์ออกกำลังกายเดินเข้ามาซื้อคอนแทคเลนส์ แต่ลูกค้าอยากลองวัดสายตาใหม่เพราะคอนแทคเลนส์เบอร์เดิมใส่มา 2-3 ปีแล้ว มีปัญหาคือมองไม่ชัด เห็นภาพซ้อนทั้งใกล้และไกลเป็นเยอะในระยะใกล้ โดยเบอร์เดิมที่ใส่อยู่คือ -3.75 ทั้ง 2 ข้าง(ลูกค้าใส่แว่นสลับกับคอนแทคเลนส์ที่เบอร์ -3.75 เช่นกัน และก็เห็นภาพซ้อนและเป็นเงาอีกเช่นกัน) ทั้งคอนแทคเลนส์และแว่นทำมาจากร้านแว่นตาแห่งหนึ่งที่มีสาขาเยอะมาก ๆ เมื่อได้ลองวัดสายตาและทดสอบฟังก์ชั่นการทำงานของกล้ามเนื้อตาพบว่าสายตาที่ได้เป็นคนละอย่างกับคอนแทคเลนส์และแว่นตาที่ใช้อย่างสิ้นเชิงและที่สำคัญยังมีปัญหากล้ามเนื้อตาเป็นเหล่ออกแบบซ่อนเร้น(Exophoria) สูงทั้งใกล้และไกลอีกด้วย
แว่นตาและคอนแทคเลนส์เบอร์เดิม
R= -3.75
L= -3.75
เบอร์สายตาที่วัดได้
R= -3.25 -2.00 x 180 VA. 20/20
L= -2.50 -2.50 x 180 VA. 20/20
OU VA = 20/15
ปัญหาฟังก์ชั่นการทำงานของกล้ามเนื้อตา (ตรวจโดยวิธีเฉพาะทางคลินิก)
Exo 6 Prism BI @ Distance
Exo 10 Prism BI @ Near
AC/A 4:1
เมื่อได้เห็นผลตรวจสายตาและฟังก์ชั่นการทำงานของกล้ามเนื้อตาผมจึงวิเคราะห์ได้ทันทีเลยว่าปัญหาของคนไข้ที่เห็นภาพซ้อนและเป็นเงานั้นเกิดจากปัญหาสายตาเอียงและปัญหาตาเหล่ออกแบบซ่อนเร้น (Exophoria) ทั้งใกล้และไกล ซึ่งปัญหานี้ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่พอสมควร ส่วนแว่นตาและคอนแทคเลนส์ที่ใช้อยู่นั้นคงต้องบอกเลยว่าใช้ไม่ได้และต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเพราะขืนใช้ไปจะส่งผลต่อระบบการทำงานของกล้ามเนื้อตาตามมาอย่างมาก
แนวทางในการแก้ไข
โดยปรกติคนเราเวลามองใกล้ดวงตาจะเหลือบเข้า(Convergence) และดวงตาต้องออกกำลังในการเหลือบเข้า(Convergence) 15 Prism แต่ลูกค้ารายนี้กำลังในการเหลือบเข้า(Convergence) ไม่พอ ฟ้องจากอาการเห็นภาพซ้อนในระยะใกล้เราจึงต้องพิจารณาชดเชยกำลังเหลือบเข้า(Convergence) ของตาที่ขาดหายไป เพื่อที่จะทำให้การมองเห็นกลับมาเป็นปรกติและลดปัญหาภาพซ้อนลง
และโดยปรกติอีกเช่นกันดวงตาจะมีระบบการชดเชยมุมเหล่ที่เกิดขึ้นภายในตาอยู่แล้วเราเรียกว่า Fusional vergence และ Fusional vergence แนวนี้เรียกว่า Positive Fusional vergence ซึ่งจะมีกำลังในการชดเชยมากกว่า Fusional vergence แนวอื่น ๆ อยู่มาก แต่ลูกค้ารายนี้จำนวนมุมเหล่ซ่อนเร้นที่เป็นอยู่มีจำนวนมากถึง 6 Prism ในระยะไกล และมีอีก 10 Prism ในระยะใกล้ ทำให้กำลังชดเชย Positive Fusional vergence ไม่สามารถชดเชยได้ทั้งหมด ลูกค้าจึงมองเห็นภาพซ้อนเกิดขึ้น ยิ่งในระยะใกล้ด้วยแล้วที่มีมุมเหล่ถึง 10 Prism ทำให้จะพบปัญหาภาพซ้อนสูงมาก ๆ ทางร้านจึงพิจารณาจ่ายค่าสายตาที่เป็นแบบ full correct และใช้ Decenter ชดเชยข้างละ 2 Prism BI ค่าสายตาที่ได้เป็นดังนี้
R= -3.25 -2.00 x 180 2 Prism BI
L= -2.50 -2.50 x 180 2 Prism BI
หลังจากชดเชย Prism ไปข้างละ 2 Prism แล้วจะทำให้จำนวนเหล่ออกแบบซ่อนเร้นที่เป็นอยู่ลดลงเหลือ 2 Prism สำหรับมองไกล และเหลือ 6 Prism สำหรับมองใกล้ ซึ่งค่าเหล่ออกที่เหลือนั้น Fusional vergence ที่มีอยู่นั้นสามารถชดเชยได้ ทำให้ปัญหาการมองเห็นภาพซ้อนนั้นหมดไป
เมื่อลูกค้ามารับแว่นผลการแก้ไขเป็นไปได้ดีปัญหาภาพซ้อนหมดไปลูกค้าปรับตัวได้ดี สวมใส่ชัดเจนสบายตาทั้งใกล้และไกล ไม่มีปัญหาปวดหัวและปวดกระบอกตา ทางร้านได้แนะนำเพิ่มเติมให้ลูกค้าได้ทำการบริหารกล้ามเนื้อตาร่วมด้วยกับการสวมแว่นเพื่อทำให้กล้ามเนื้อตาแข็งแรงขึ้นเพื่อเพิ่มกำลังในการ Positive Fusional vergence ให้ได้มากยิ่งขึ้น
เนื่องจากลูกค้าเป็นเทรนเนอร์ออกกำลังกาย ลูกค้าจึงต้องการความคล่องตัวเวลาออกกำลังกายจึงอยากได้ Contact lens เอาไว้ใส่ตอนออกกำลังกายทางร้านจึงแนะนำว่าสามารถใส่ได้แต่เวลาใส่ Contact lens นั้นมองไกลจะเป็นปรกติแต่เวลามองใกล้จะรู้สึกไม่สบายเหมือนกับใส่แว่น ลูกค้ารับได้เพราะเขาต้องการใส่เฉพาะตอนออกกำลังกายเท่านั้น ทางร้านจึงจ่าย Contact lens ไปอีก 2 คู่
ระยะเวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ ทางร้านได้โทรไปสอบถามถึงแว่นตาที่ทำไปจากทางร้าน ลูกค้าบอกว่าชัดเจนสบายตาดี ปรับตัวได้เป็นอย่างดี เราเองในฐานะผู้ให้บริการเมื่อเห็นถึงการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพของตัวเองก็อดไม่ได้ที่จะมีความภาคภูมิใจในการทำงานของตัวเองไปด้วย ก็ต้องขอบคุณลูกค้าทุกท่านอีกเช่นกันที่เป็นครูสอนให้เรามีความเชี่ยวชาญและชำนาญงาน เพราะคำว่าคุณภาพคืองานของเรา
การแก้ไขสายตาให้สมบูรณ์แบบนอกจากต้องดูด้านระบบสายตาแล้วยังต้องดูถึงฟังก์ชั่นการทำงานของกล้ามเนื้อตาควบคู่กันไปด้วยเสมอ เพราะการแก้ไขที่ดีนั้นต้องแก้ทั้งระบบเพื่อความสมบูรณ์แบบทางด้านการมองเห็น ขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านบทความของทางร้านของเรา ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความที่เขียนนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านที่ได้ติดตามไม่มากก็น้อย…………ขอบคุณมากครับ…………..สวัสดีครับ
เขียนโดย
นายอนิรุจน์ เรือนทองดี
ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบการมองเห็น